Tuesday, May 15, 2007

เจ้าของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ให้ข้อคิดสอนใจเรื่องสติกับการดำเนินชีวิต

  • ตอนนี้เป็นเทศกาลประกาศผลเอ็นท์ มีข่าวเด็กฆ่าตัวตาย
  • ในขณะเดียวกัน สื่อต่าง ๆ ก็ไปสัมภาษณ์ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่ไม่ได้จบการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อเสียงที่ต้องเอ็นท์เข้า
  • ส่วนตัวแล้ว อ่านความเห็นเจ้าของชายสี่ บะหมี่เกี๊่ยว แล้ว ชื่นชมที่สุด ขอยกให้เป็นฮีโีร่ (ถึงแม้จะชอบบะหมี่ปูเฮียอ้วนปากซอยสุขุมวิท ๓๘ เพราะคิดว่าอร่อยกว่าก็ตาม :) )
ที่มาข่าว: http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000055227&#Comment




















พันธ์รบ กำลา เจ้าของธุรกิจแฟรนไชต์ก๋วยเตี๋ยวร้อยล้านชื่อดัง “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว"

พันธ์รบ กำลา เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวร้อยล้านชื่อดัง “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว" นักศึกษาดีเด่นของสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ซึ่งศึกษาจบเพียงชั้น ป.4 ก่อนจะมาเรียนต่อกับ กศน.จนจบระดับชั้นที่สูงขึ้น

พันธ์รบ ไม่เคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังเช่นกัน

เจ้าของธุรกิจก๋วยเตี๋ยวร้อยล้าน ให้แง่คิดว่า ชีวิตคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยหรือจะเรียนจบจากสถาบันไหน แต่สำคัญที่ว่าเรามีความรู้หรือไม่ ซึ่งความรู้ก็สามารถหาได้จากแหล่งต่างๆ มากมายไม่เฉพาะในมหาวิทยาลัยเท่านั้น

“ทั้งโทรทัศน์ หนังสือ หรือการเรียนรู้จากโลกภายนอกล้วนเป็นห้องเรียนให้เราได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างเดียว โดยเฉพาะอัตชีวประวัติของบุคคลต่างๆ ล้วนเป็นแหล่งความรู้ชั้นดี หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจ เราก็ไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่เปิดให้เราเรียน
คนเราจะเก่งไม่เก่งอยู่ที่ตัวเรา แม้เข้าไปเรียนในสถาบันมีชื่อ
แต่ตัวเราไม่หมั่นหาความรู้ก็ไม่มีประโยชน์”

พันธ์รบ ฝากถึงน้องๆ อีกว่า อยากให้กำลังใจน้องๆ ทุกคนและให้คิดเสมอว่า ชีวิตเรามีคุณค่า คนพิการแขนขาดเขายังหาใช้ฝ่าเท้าซ่อมรถจักรยานยนต์หาเลี้ยงตัวเองได้ จึงขอให้เด็กทุกคนมีความมานะอดทน เพราะโอกาสของชีวิตยังอีกยาวไกล

“ตอนนี้เราสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรเพราะชีวิตน้องๆ เพิ่งจะ 7 โมงครึ่ง เรายังมีเวลาอีกมากที่จะศึกษาหาความรู้
กว่าจะถึงบ่ายโมงเรายังสามารถทำอะไรได้มากมาย
ที่สำคัญเราต้องพยายามช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุด
การช่วยเหลือคนรอบข้างจะทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า
และเราจะรู้สึกว่าตายไม่ได้ เราจะคิดถึงแม่
คิดถึงคนในครอบครัว คิดถึงเพื่อน
เราต้องอยู่เพื่อตัวเราและเพื่อพวกเขา การตายไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา การเรียนมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ดีถ้ามีโอกาส
แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็เรียนรู้จากที่อื่น ซึ่งการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยถือเป็นการเรียนรู้ที่เต็มรูปแบบมากที่สุด”

พันธ์รบ บอกอีกว่า การไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไม่เกี่ยวกับความสำเร็จของมนุษย์ เพราะคนจบดอกเตอร์ไม่ได้เป็นคนดีทุกคน
และคนจบดอกเตอร์ก็ไม่ใช่คนเก่งทุกคน

การจะประสบความสำเร็จได้ต้องสร้างความเชื่อถือ
ให้เกิดกับคนรอบข้างว่าเราเป็นคนดี
นั่นคือ พูดดี คิดดี และทำดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นบันไดที่จะพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ ที่สำคัญการมีความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอ ยังต้องมีความคิดควบคู่ไปด้วย เมื่อชีวิตมีอุปสรรคก็อย่าไม่ท้อถอยต้องรู้จักหาวิธีแก้ปัญหาด้วยสติ

No comments: